Chiikaa

วันอังคารที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

มลพิษทางสื่อ

มลพิษทางสื่อ
                ในปัจจุบันสื่อเริ่มเข้ามามีบทบาทในสังคมไทยเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นสื่อ โทรทัศน์ วิทยุ ภาพยนตร์ หนังสือพิมพ์ นิตยาสาร และหนังสืออื่นบนแผง รวมถึงบิลบอร์ด และอินเทอร์เน็ตสื่อใหม่ที่กำลังมาแรง สื่อเหล่านี้ กำลังส่งผลต่อพฤติกรรม ค่านิยมในสังคมไทย ที่เริ่มเปลี่ยนแปลง เพราะการรับสื่อ
                สื่อที่ส่งผลต่อพฤติกรรมของผู้รับสารได้มากที่สุดคือ โทรทัศน์ เพราะละครไทยจะมีโครงสร้างที่เหมือนกันกันเกือบทกๆเรื่อง ที่พระเอกรวย นางเอกจนมีชีวิตรันทด มีนางร้ายคอยใส่ร้ายนางเอก แม่ของพระเอกเกลียดนางเอกจนเข้าไส้ บางเรื่องก็ทำร้ายกันโดยใช้มีดกรีดหน้ากัน หรือละครบางเรื่องพระเอกจับนางเอกโยนลงน้ำ จับหมัดข่มขืน คนก็ชอบดูกันเป็นซะส่วนใหญ่ เพราะทำให้ตัวเองได้หลุดออกจากภาวะความเครียดในช่วงขณะหนึ่ง
                ผลกระทบที่เกิดขึ้นคือเกิดกับตัวเด็กเนื่องจากการดูโทรทัศน์ภายในครอบครัวถือว่าเป็นกิจกรรมที่ทำร่วมกัน พ่อแม่ชอบดูละครหลังข่าว ลูกมักจะนั่งดู ซึ่งเคยมีรายงานการสำรวจของโครงการเฝ้าระวังสื่อเพื่อสุขภาวะทางสังคมพบว่า ส่วนมากเด็กจะเป็นช่วงเสาร์-อาทิตย์ ถ้าเป็นในวันจันทร์ถึงศุกร์ เด็กมักจะดูช่วง 4 ด้วย โมงเย็น ถึง  2 ทุ่ม มากที่สุด จนบางครั้งอาจจะทำให้เด็กเกิดพฤติกรรมการเรียนแบบ ยิ่งในยุคนี้สื่อทางอินเทอร์เริ่มเข้ามาแรงกว่าสื่อโทรทัศน์ ยิ่งน่าเป็นห่วงมากขึ้น เนื่องจากเด็กวัยรุ่นมีการใช้สื่อทางอินเทอร์เน็ตเป็นกิจวัตรประจำวันไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็น  facebook, twitter, hi5,ฯลฯ เด็กสามารถเข้าถึงได้ง่ายโดยไม่ต้องมีผู้ปกครองคอยควบคุม
                ซึ่งในปัจจุบันการเข้าเว็บไซด์ แต่ละเว็บไซด์มักมีภาพโป้เปลือยแทรกตามแท็ปโฆษณาแฝงในหน้าเว็บนั้นๆ ทำให้เด็กเกิดการอยากรู้อยากเห็น กลายเป็นว่าลองคลิกเข้าไปดู ทำให้เกิดการซึมซับเกิดการอยากรู้และอยากทำตาม หรือลองดู ยิ่งได้เล่น facebook ที่ตอนนี้กำลังเป็นที่นิยมใน Social Network  ได้คุยกับคนที่ไม่รู้จักหน้าตา บางคนคบกันเพียงแค่คุยกันใน facebook  เพราะถูกใจกันระหว่างที่ไดคุยกัน บางคนถูกหลอกไปข่มขืนก็มีออกข่าวหน้าหนึ่งอยู่บ่อย บางคนอยากโชว์ของสงวน ก็โพสรูปขึ้นโชว์ จนกลายเป็นค่านิยมโดยไม่รู้ตัว
อาจารย์เอกพล เธียรถาวร อาจารย์ประจำภาควิชาวารสารศาสตร์ กล่าวว่า สื่อในปัจจุบันถ้าเทียบกับสมัยก่อนอาจจะไม่แตกต่างกันสักเท่าไหร่ เพราะสื่อของไทยที่เป็นเอกชนส่วนใหญ่ก็เป็นสื่อที่หวังผลกำไร ก็ไม่หน้าแปลกใจนัก แต่ที่คิดว่าน่าจะดีคือ สื่อมีการพัฒนาและทำให้เกิดไทยพีบีเอสที่เป็นสื่อสาธารณะเกิดขึ้นมา ซึ่งเป็นสื่อที่ไม่หวังผลกำไร
ส่วนเรื่องละครไทยอันนี้อาจจะเยอะเกินไปจริงๆ แต่ว่าก็ต้องดูทั้งสองอย่างว่า ถ้าเกิดสังคมยังยอมรับอยู่ และยังทำอยู่ทางผู้จัดผู้สร้างต้องช่วยกัน แต่ว่าถ้าคนดูเห็นว่าเกินไปก็ต้องมีการแจ้งกับทางผู้จัดผู้สร้าง แล้วผู้จัดผู้สร้างก็ต้องคำนึงถึงประโยชน์แก่ประชาชน
สำหรับสื่อทางทางอินเทอร์เน็ต ความรู้เท่าทันสื่อของเด็อาจจะยังไม่เพียงพอ  ตัวเด็กอาจจะนึกว่าเรื่องใน facebook เป็นเรื่องของเขา แต่อะไรที่อยู่ใน Social Network มันก็เป็นสื่อสาธารณะเสมอ สำหรับสิ่งที่จะช่วยได้ในปัจจุขันก็น่าจะต้องมีความรู้เท่าทันสื่อ คงไม่ถึงขั้นไปบังคับ เราไม่สามารถเข้ามาควบคุมสื่อได้ ยิ่งปัจจุบันเทคโนโลยีก้าวไกล ขยายแพร่มุมกว้างไปเรื่อยๆ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะไปควบคุมทั้งหมด เพราะฉะนั้นเราต้องแก่ที่ตัวผู้รับสารดีกว่า เพื่อเพิ่มความรู้ความเข้าใจ ให้สามารถรู้เท่าทันสื่อได้
ด้านนางสาวสุธินี วิสูตร นักศึกษาชั้นปีที่ 3  คณะวิทยาการจัดการ สาขานิทศศาสตร์ เอกการแสดง กล่าวว่าในปัจจุบันสื่อมีทั้งในแง่ดี และแง่ลบ คือทำให้รู้เรื่องราวจากภาพเหตุการณ์ว่าสื่อถึงอะไรที่เกิดขึ้น ในเรื่องราวต่างๆ สื่อในด้านดีคือ สื่อทางด้านอานาจารที่สื่อถึงเด็กที่ไม่เหมาะสมที่ควรจะเรียนรู้ ภาพสื่อในละครที่มีการตบตี มีฉากเลิฟซีน คิดว่าไม่เหมาะสม เพราะละครเป็นส่าวหนึ่งที่ทำให้เด็กดู แล้วเด็กก็เรียนแบบ บางทีการทะเลาะกันก็ไม่จำเป็นต้องดัดแปลงเป็นการตบตี อาจจะใช้วาจา และสีหน้าแทนมากกว่า
และสำหรับ Social Network อย่าง facebook ที่สมัยนี้มีการโชว์ของสงวน ก็ไม่ควรที่จะนำลงเพราะเดี๋ยวนี้ เด็กสามารถเข้าถึง Social Network ได้รวดเร็วขึ้นและเป็นที่รู้จักกันมากขึ้น ก็อยากให้มีการควบคุมสื่อบ้าง เพราะเด็กนำไปทำตามกันเยอะ และดูไม่เหมาะสม อยากให้มีความระมัดระวัง และสอนเด็ก เพราะมันมีทั้งข้อดี และข้อเสียในการใช้ Socia network ให้ได้รู้จักว่าการทำงานควรทำอย่างไร ใช้อย่างไร จึงจะเหมาะสม
ในด้านของผู้ปกครอง นางฐิติยา แสวงหา ได้กล่าวว่า จากการที่ได้ดูโทรทัศน์ในยคนี้ พวกละครหลังข่าวมักจะมีฉากกอดจูบกันให้เห็นมากขึ้น หรือไม่ก็ฉากที่มีการตบตีที่ดูจริงจัง ถึงขั้นฆ่ากันตายก็มี บางทีเด็กที่นั่งดูอยู่ด้วยก็จดจำภาพเหล่านั้นและอาจจำไปทำตามไม่ว่าจะเปิดไปช่องไหน ก็จะมีลักษณธคล้ายกันเกือบทุกๆเรื่อง ส่วนพวกสื่ออินเทอร์เน็ตก็คิดว่ามีผลกระทบต่อเด็กมาก เพราะเดี๋ยวนี้เด็กมีการใช้อินเทอร์เน็ตกันทุกวัน บางทีผู้ปกครองก็ไม่สามารถเข้าไปสอดส่องดูแลได้ตลอดเวลา สำหรับแนวทางการแก้ไขสื่อต่างๆ ควรจะมีการกลั่นกรองเนื้อหาต่างๆ ก่อนว่าเหมาะสมหรือไม่ที่จะนำมาเผยแพร่ผ่านในสื่อต่างๆ
                                                                                                                                                                              เขียนโดย
POOCHIIKAA





นางเอกหน้าใหม่ "รถไฟฟ้ามาหานะเธอ"

 นางเอกหน้าใหม่ "รถไฟฟ้ามาหานะเธอ"      
           เคยดูภาพยนตร์แล้วอยากจะเป็นแบบนางเอกในภาพยนตร์บางไหม หลายๆคนอาจจะเคยคิด เพราะว่าฉันก็เป็นคนหนึ่งที่เคยคิดแบบนั้น เลยลองหาโปสเตอร์ภาพยนตร์ที่ชอบมาลองรีทัชหน้าตัวเองดู เมื่อรีทัชเสร็จแล้วดูไปดูมาหน้าเรานี้ก็พอเนียนอยู่นะ จริงๆแล้วเราคลายนางเอกภาพยนตร์อยู่นะ สำหรับเรื่องที่เอามาทำรีทัชหน้าคือ เรื่อง "รถไฟฟ้ามาหานะเธอ" ที่เลือกเรื่องนี้เพราะอยากเป็นแบบเหมยลี่ คู่กับคุณลุงหน้าตาหล่อๆ

 
ต้นฉบับคริสตัวจริง

รัทัชหน้าแล้วเปลี่ยนจากหน้าคริส เป็นหน้าตัวเอง
โปสเตอร์นักแสดงนำ เคน ธีรเดช กับ ปู ชิกา


วันพุธที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

“ความทรงจำ” ใน “หนังสือรุ่น”


“ความทรงจำ” ใน “หนังสือรุ่น”
เมื่อพูดถึงอดีตในช่วงมัธยม ใครๆก็คงต้องนึกถึงเพื่อนๆ ครูอาจารย์ สถานที่เก่าๆในโรงเรียน และบรรยากาศในห้องเรียน เมื่อเราต่างเรียนจบกันมาแล้วบางคนก็คงอยากย้อนกลับไปสู่วัยเยาว์ที่ได้ผ่านไปแล้ว แต่ยังคงมีสิ่งๆหนึ่งที่สามารถช่วยให้เราจดจำเรื่องราวต่างๆได้ดี นั้นก็คงเป็นหนังสือรุ่น ทุกๆครั้งที่เราได้หยิบมันมาเปิดดู เราจะอมยิ้มทุกครั้งกับภาพเรื่องราวต่างๆ ที่ถูกบันทึกไว้ในหนังสือรุ่น

ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานกี่ปี แต่ถ้าอยู่ดีๆสักวันหนึ่งเราได้ลองหยิบหนังสือเล่มหนึ่งที่ถูกตั้งกองไว้เฉยๆ มาเปิดดูด้วยความสงสัยว่าหนังสือเล่มนี้ มันมีอะไรอยู่ข้างใน เมื่อเปิดเข้าไปแล้วเจอภาพเก่าๆ ที่มีคนยืนเกาะกลุ่มนั่งถ่ายรูป ในสภาพชุดนักเรียน มันจะทำให้เรานึกถึงเหตุการณ์เก่าๆที่มีทั้ง สุข สนุก ฮา แอบเศร้าบางในบางครั้ง วีรกรรมป่วนๆ เรื่องโจ๊กๆ แล้วเราจะย้อนกลับมาถามตัวเองว่าเพื่อนเราเป็นอย่างไหร่บ้าง ตอนนี้ใครทำอะไร ที่ไหน อย่างไร เปิดจนเกือบถึงหน้าสุดท้าย มักจะมีเบอร์โทร อีเมล์ ที่อยู่ของเพื่อนๆ แต่ละคนอยู่ เคยไหมที่จะลองเสี่ยงโทรไปหาเพื่อนดูว่าจะติดต่อได้อยู่หรือไม่ 
 เส้นทางที่เราวาดไว้มันยาวไกล         เมื่อไหร่จะถึงจุดหมายสู่ปลายฝัน
ล้มแล้วลุกทุกข์แล้วท้อมานานวัน         กว่าทางฝันที่วาดไว้กลายเป็นจริง
ไม่มีใครหลอกที่อยากพ่ายแพ้         แต่อยากได้ดังใจที่วาดหวัง
ไม่อยากเดินบนทางมืดโดยลำพัง      แต่อยากฝังความฝันไว้ ณ ปลายทาง



 


 








กระแสธรรมะ “ยุคใหม่”


กระแสธรรมะ “ยุคใหม่”
ในปัจจุบันการเข้าถึงธรรมะถือว่าเป็นเรื่องที่ง่ายมากขึ้น เป็นเรื่องที่ใครๆก็สามารถเข้าถึงได้ไม่ว่าจะรุ่นไหน หรือวัยไหนก็ตาม โดยเรื่องธรรมะดูจะไม่เป็นเรื่องที่ไม่น่าเบื่ออีกต่อไป ซึ่งถ้าเปรียบเทียบกับในยุคก่อนๆ นั้นคนจะๆไม่ค่อยมีความสนใจเรื่องธรรมะกันสักเท่าไหร่ ที่มีจริงๆก็คงมีแต่ผู้ใหญ่จนถึงวัยสูงอายุ อย่างรุ่น ปู่ ย่า ตา ยาย ขึ้นไปเท่านั้นที่จะสนใจเรื่องธรรมะ เข้าวัดเพื่อฟังเทศน์ฟังธรรม
ในยุคก่อนๆนั้น ถ้าพูดถึงวัยรุ่นกับเรื่องธรรมะคงเป็นเรื่องยากที่จะเข้ากันได้ เพราะวัยรุ่นจะไม่ค่อยจะสนใจเรื่องธรรมะกันสักเท่าไหร่ เพราะไม่อยากเข้าวัดไปฟังเสียงสวดมนต์ ฟังเทศน์ ฟังธรรม  และเบื่อที่จะต้องมานั่งสมาธิเป็นเวลานานๆ
แต่ ณ ปัจจุบันการเผยแพร่ธรรมะมีการดัดแปลง และสามารถเข้าถึงได้หลายช่องทางมากขึ้น ไม่ว่าจะผ่านทางโทรทัศน์ วิทยุ หนังสือพิมพ์ นิตยาสาร อินเทอร์เน็ต และหนังสือเฉพาะที่เกี่ยวกับธรรมะ เนื่องจากในปัจจุบันเริ่มมีผู้เขียนเรื่องเกี่ยวกับธรรมะเป็นพ็อกเก็ตบุ๊คกันมากขึ้น จึงทำให้ทางเลือกในการหาหนังสือธรรมะดีๆมาอ่านได้มากขึ้น
การเผยแพร่ธรรมะได้เปลี่ยนรูปแบบให้มีความสนุกสนาน มีการเปรียบเทียบเรื่องราวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นธรรมะที่เกี่ยวกับชีวิตประจำวัน สิ่งต่างๆที่อยู่รอบตัว หรือเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นให้มีการเชื่อมโยงธรรมะ เป็นคติเตือนใจ ข้อคิดดีๆ ต่างๆ จึงทำให้เป็นเรื่องง่ายขึ้น ที่ธรรมะจะเข้ามาช่วยยึดเหนี่ยวจิตใจคนในยุคนี้
ธรรมะได้เข้ามามีบทบาทตามโรงเรียน มหาวิทยาลัย หรือองค์กรต่างๆ เริ่มมีการจัดกิจกรรมอบรมด้านธรรมะ โดยการเชิญพระอาจารย์จากวัดต่างๆ ที่มีความสมารถในด้านการเทศนา เข้ามาให้ความรู้ ข้อคิด คติเตือนใจ ตลอดจนการสร้างจิตสำนึกดีให้เกิดขึ้นในตัวของผู้ฟังธรรมะ ผู้เข้าอบรม
สำหรับพระอาจารย์ที่กำลังมีชื่อเสียงในด้านการเทศน์ของยุคนี้ที่ใครๆก็รู้จัก คือพระมหาสมปอง ตาลปฺตฺโต(นครไธสง) หรือที่เป็นที่รู้จักกันดีทั่วไปในนาม “พระมหาสมปอง” เป็นนักเทศน์ชื่อดังอีกท่านของเมืองไทยที่โด่งดังมาจากรายการธรรมะเดลิเวอรี่ รายการหลวงพี่มาแล้ว และคุณพระช่วย พร้อมทั้งออกหนังสือธรรมะที่สอดแทรกความสนุกอีกหลายเล่ม ซึ่งท่านมีแนวทางการเผยแพร่ธรรมที่ทำให้สามารถเป็นเรื่องที่เข้าใจง่าย ซึ่งถึงใจ แบบง่ายๆ และกลายเป็นเรื่องที่สนุก
และพระอาจารย์อีกท่านหนึ่งที่กำลังมาแรง พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธีหรือนามปากกาของท่านที่ทุกคนรู้จักกันดีคือ พระอาจารย์ ว.วชิรเมธี ท่านเป็นนักวิชาการ นักคิด นักบรรยายธรรม กับข้อคิดที่โดนๆ และดี ตรงกับชีวิตของคนในยุคปัจจุบัน มีผลงานทางบทโทรทัศน์และหนังสือเรื่องธรรมะติดปีก ให้กับทางช่อง 3
ซึ่งในปัจจุบันท่านทั้ง 2 ได้มีการเผยแพร่ธรรมะดีๆ ผ่านทาง Social Network ที่เป็นที่น่าสนใจไม่ว่าจะเป็นทาง facebook, twitter มีการแชร์เรื่องราวหรือทวิต คติ ข้อคิด ธรรมะ มากขึ้น ทำให้คนเข้าไปกดแชร์ กดไลค์ ก็ยิ่งทำให้คนรุ่นใหม่มีความรู้สึกสนใจและนำข้อคิดดีๆมาโพสต์ส่งต่อกัน จึงกลายเป็นสิ่งที่ทำให้คนรุ่นใหม่เข้าถึงธรรมะได้ง่ายกว่าเดิม
แม้ในบางครั้งคนจะมีความทุกข์ เหนื่อย ท้อ แต่สุดท้ายสิ่งที่สามารถช่วยบรรเทาให้ดีขึ้นได้ก็คือธรรมะดีๆ ที่ค่อยช่วยสอน และข้อคิดที่ช่วยเตือนสติให้มนุษย์ยังมีกำลังใจสู้เหมือนคำของพระมหาสมปองที่ว่า “...โลกสอนมนุษย์ว่าทุกสิ่ง ต้องมีการเปลี่ยนแปลง แต่โลกกลับให้มนุษย์ผูกพัน...” (ธรรมะเดลิเวอรี่ 2/ต.ค./2551)

                                                                                                           เขียนโดย   Poochiikaa  Y.



สาระดีๆจากหนังสือที่น่าอ่าน


สาระดีๆจากหนังสือที่น่าอ่าน

ใครที่เป็นคนชอบอ่านหนังสือในเวลาว่าง มักจะชอบเก็บหนังสือทุกๆเล่มไว้เป็นอย่างดี ในหนังสือทุกเล่มที่ได้อ่าน จะมีข้อคิดดีๆ แฝงอยู่เสมอ ทุกครั้งๆที่เราได้อ่านหนังสือควรอ่านแล้วคิดตามไปด้วย มันจะทำให้ได้อะไรดี มุมมองใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือแนวไหนก็ตาม วันนี้เลยอยากจะแนะนำหนังสือบางเล่มให้ได้ลองอ่านกันดู

เล่มนี้เป็นหนังสือแนวจิตวิทยาพัฒนาตนเอง เป็นหนังที่รวมแง่คิด คำคมจากบุคคลที่ประสบความสำเร็จทั่วโลก จากทั้งหมด 365 ข้อคิดเพื่อพิชิตความสำเร็จ

For the boys เป็นหนังสือที่รวบรวมมวลสารแห่งความรักและความปรารถนาดี ที่คมคาย อ่อนโยน และลึกซึ่ง จากผู้อาวุโสฝากถึงผู้เยาว์

                หนังสือแนวทางแห่งความสุข ที่เป็นบทเรียนแห่งชีวิตในโลกยุคใหม่ ของ ดร.องอาจ ชุมสาย ณ อยุธยา เมื่อได้อ่านแล้วจะเกิดความเข้าใจ พิจารณาตรึกตรองให้ท่องแท้ ว่าจะนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างไร ที่จะทำให้เกิดสติ

                จอมทะลึ่ง ของอีแร้ง เป็นการรวม 11 เรื่องสั้นในหนังสือเล่มนี้ ขอรับรองว่าสนุก – อ่านมันส์และถูก เป็นเรื่องแนวอีโรติก ของอีแร้งสนุกดี
                เล่มสุดท้ายนี้ เพราะรัก เป็นหนังสือการ์ตูน เรื่องนี้ ถ้ายิ่งอ่านมากเท่าไร ก็จะยิ่งมีความสุขเท่านั้น ถือว่าเปานการ์ตูนที่ทำลายสถิตติต่างๆ ของการ์ตูนทางอินเทอร์เน็ตทั้งหมด ที่มีผู้เข้าชม 32 ล้านคน เฉลี่ยวันละ 2 ล้านคน             เป็นการ์ตูนเกี่ยวกับการดำเนินชีวิตของคนธรรมดา ที่แสดงออกมาอย่างน่าสนใจและตลกขบขันในรูปแบบของการ์ตูน เรื่องราวเป็นความรักที่ต่างวัยระหว่างสาวในวัยเรียนกับหนุ่มในวัยทำงาน ที่ปิ้งกันแบบซื่อๆใสๆ 


วันพุธที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ร้านปาเต๊ะ (Pathe) เสาวรีย์ชัย

ร้านปาเต๊ะ (Pathe) เสาวรีย์ชัย
ร้านปาเต๊ะ สาขาสามเหลี่ยมดินแดงเลยอนุสาวรีย์ชัย เป็นร้านที่ถูกตกแต่งด้วยรูปภาพ และ แผ่นเสียงในสมัยยุค 60s-70s สไตล์ยุคโฆษณาจักรเย็บผ้าซิงเกอร์ ของตกแต่งภายในร้านทุกชิ้นเป็นสไตล์ย้อนยุคทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นโคมไฟเครื่องดนตรีเก่า จักรยานเก่า แต่สิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของร้านนี้มากที่สุดคือ แผ่นเสียง ร้าน Pathe เปิดเพลงยุค 60s-70s จากแผ่นเสียงจริงกับเครื่องเล่นแผ่นเสียงจริงๆ ไม่ได้เปิดจากแผ่น CD เมื่อคุณเข้าไปในร้านนอกจากบรรยากาศการตกแต่งแล้วดนตรีก็เป็นเอกลักษณ์ของ ร้านที่ทำให้ลูกค้าซึมซับบรรยากาศในยุคนั้นได้เป็นอย่างดี

บรรยากาศร้าน ร้านปาเต๊ะ (Pathe)




 
 สปาเตตี้ขี้เมาปาเต๊ะ ราคาประมาณ 85 บาท

ข้าวผัดโป๊ะแตก
 การเดินทาง       
                  จากแยกสามเหลี่ยมดินแดง ตรงมาทางอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ แล้วให้สังเกตสวนสันติภาพ จะเห็น507อพาร์ทเม้นท์ ร้านอาหารปาเต๊ะ อยู่ที่ชั้น 1 ภายใน507อพาร์ทเม้นท์ ตรงข้ามกับสวนสันติภาพ

บูมนิเทศ 'สวนนัน'

 บูมนิเทศ 'สวนนัน'
           การบูม (BOOM) ถือว่าเป็นประเพณีอยางหนึ่งทีทมีการมารุ่นต่อรุ่น ทุกๆมหาวิทยาลัย ทุกๆคณะ ทุกๆสาขา ทุกๆเอก จะต้องมีประจำเพื่อสืบทอดกันต่อไป อย่างสาขานิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ก็มีบูมประจำสาขาอยู่เหมือนกัน

นิเทศ สวนนัน รุ่น 24

นิเทศ สวนนัน รุ่น 25

นิเทศ สวนนัน รุ่น 26

วันอังคารที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

Time is life ช่วงชีวิต

"Time is life" ช่วงชีวิต

             โปสเตอร์ชิ้นนี้ทำขึ้นเพื่อส่งอาจารย์ โดยอาจารย์ให้คอนเซ็ป "TIME" นั่งคิดอยู่นานไปเจอรูปคนแก่ใน GOOGLE ใส่แว่นเหมือนกันเลย ทำให้คิดคอนเซ็ปได้กลายเป็น Time is life

รูปนี้ใช่เวลาทำเกือบวัน เพราะยังเป็นมือใหม่อยู่




 ซึ่้ง Time is life  ความหมายในที่นี้หมายถึง เวลาของวัยหรือเวลาของอายุ โดยช่วงชีวิตของคนเราจะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นหน้าตา ความคิด การใช้ชีวิต ไม่มีใครที่จะสามารถหยุดช่วงเวลาของชีวิตได้ ก็เหมือนกับนาฬิกาที่ไม่มีใครสามารถจะหยุดเวลาอยู่กับที่ได้ เข็มของนาฬิกาจะค่อยๆเดิน  ก็เหมือนกับอายุของคนเราที่ค่อยๆก้าวเดินตามเข็มของนาฬิกา บางคนยืนรอให้เวลาผ่านไป ติ้ก ติ้ก ติ้ก อย่างไร้ความหมาย บางคนยืนรอให้ช่วงชีวิตก้าวหน้าต่อไป อย่างเชื่องช้าและไร้ความหมาย บางคนพรวดพราด เกินไปจนหลงลืมความสวยงามของแต่ละช่วงอายุ
เวลาเป็นสิ่งที่ไม่ สิ่งทีไม่สามารถเลือกได้ แต่สามารถปรับการดำเนินชีวิตให้คล้องจองกับมันได้ ก็เหมือนกับอายุของคนเราที่เราไม่สามารถลดอายุให้น้อยลงได้ หรือหน้าตาให้ดูเด็กได้ สีผมของคนก็จะเริ่มเปลี่ยนข้ามวัยสาว ความทรงจำเริ่มจางหาย รอยตีนกาเริ่มเข้ามาแทน




“Bangkok Motorbike Festival 2012”


 “Bangkok Motorbike Festival 2012” 
           ปิดฉากความสำเร็จไปแล้วกับงาน “Bangkok Motorbike Festival 2012” โดยงานได้จัดขึ้นในวันที่ 1-5  กุมภาพันธ์  2555 ที่ผ่านมา ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวร์ด ลานหน้าเซ็นทรัลเวร์ดได้ถูกเนรมิตรให้กลายเป็นพื้นที่ พบปะสังสรรค์สำหรับกลุ่มผู้ที่มีใจรักมอเตอร์ไซด์โดยเฉพาะในงานจะมีการจัดแสดงโชว์รถมอเตอร์ไซด์จากค่ายชั้นนำระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น Harley-Davidson, Triumph, KTM , Can-am Spyder, MV Augusta รวมไปถึงแบรนด์เชื้อสายเอเชียอย่าง Honda, Yamaha, Suzuki, Kawazaki, SYM, Keeway, Zero Engineering, Royale Enfield, Stella และ Tiger เป็นต้น






 







               สำหรับใครที่พลาด “Bangkok Motorbike Festival 2012 ไม่ต้องกลัวเพราะปีหน้า “Bangkok Motorbike Festival 2013” วันที่ 30 มกราคม - 3 กุมภาพันธ์ 2556